Saviors
Community
S
ข้อมูลชุดที่ F : การสำรวจภายนอกครั้งที่ 1
จากหน่วยสำรวจ : 20 ทีม
หมวด A
พิษสไพน : ต้นแบบเชื้อไวรัส RC1082 หรือ ไข้แดง
ไม่แพร่กระจายในอากาศ ไม่เกิดการติดต่อของไวรัสผ่านการสัมผัสภายนอก ตาม เอกสารฉบับที่ III ยกให้เป็นงานวิจัยด่วนในปี 72
ปัจจุบันปี 89 มีการผลิตวัคซีนที่สามารถ 'ชะลอ' อาการไข้แดงได้แล้ว และถึงแม้จะไม่หายถาวร แต่เชื้อจะไม่แพร่กระจายโดยง่าย ผู้ติดเชื้อสามารถรับวัคซีนเข้าร่างกายได้หากอาการกำเริบ
หมายเหตุ - ระหว่างการติดเชื้อ ผู้ติดเชื้อสามารถเข้างานได้ แต่ต้องระมัดระวังเรื่องความสะอาด ดื่มน้ำให้มาก และมารับวัคซีนตามกำหนด หรือเข้าตรวจร่างกายอย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้ง
หมายเหตุ2 - ไข้แดงนับเป็นโรคเรื้อรัง ยิ่งนานไป ร่างกายยิ่งแย่
น้ำเหลืองสไพน : ส่วนประกอบเต็มไปด้วยเชื้ออันตราย พื้นที่สำหรับแลกเปลี่ยนองค์ประกอบของเลือดและเซลล์ต่าง ๆ ตรวจพบสารพิษจำนวนมาก แต่เชื้อมีความอ่อนแอสูง หากไม่เข้าร่างกาย เชื้อจะตายภายในเวลาไม่นาน
ปลิงม้วน : ปลิงกลายพันธุ์ประเภทอาศัยในพื้นที่ปราศจากแสง ไวต่อเสียงและการเคลื่อนไหวของสิ่งมีชีวิต ปกติจะกินเนื้อหรือสัตว์น้ำเป็นอาหาร แต่ถ้าไม่มีอาหารมักจะกินกันเอง อัตราการขยายพันธุ์สูง
ปลิงค้างคาว : ปลิงตามธรรมชาติ ไม่พบลักษณะของการกลายพันธุ์ มักอาศัยบนต้นไม้ พื้นที่ชื้น ไวต่อกลิ่นเลือดและซากศพ ในอดีตพบว่ามีการเลี้ยงไว้โดยพรานป่า ใช้ในการป้องกันผู้บุกรุกหรือกับดักประเภทสิ่งมีชีวิต
เงาพิราบ : นกกลายพันธุ์ปริศนาที่มีส่วนของแมลงงอก ลักษณะทางกายภาพส่วนมากคล้ายคลึงกับพิราบ คอยื่น จะงอยปากแหลม มีขนาดใหญ่กว่าพิราบปกติเท่าตัว ตามลำตัวมีขาของแมลงงอกออกมา รวมถึงหางยาวปลายแหลม มีลักษณะข้อปล้องชัดเจน ใช้ในการเกาะติดเหยื่อ ผิวหนังใต้ขนมักเป็นแผลสด
ตรวจไม่พบว่าสามารถสร้างพิษได้ แต่นับเป็นพาหะนําโรคร้ายแรง
มักอาศัยอยู่เป็นฝูงใหญ่ ตามอาคารหรือตึกสูง กินเนื้อสัตว์ โจมตีเหยื่อด้วยการพุ่งชน ไม่มีความหวาดกลัวต่ออันตราย
ทากจุดแดงหางแหลม : ทากกลายพันธุ์ขนาดกลาง โตเต็มที่มีขนาดประมาณหนึ่งฝ่ามือ ผิวสีดำตามลำตัวมีจุดกลมสีแดงคณะขนาด ปลายหางมีหนามแหลมงอกออกมา ตรวจสอบแล้วพบพิษยาชาเบาบาง ไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์
กวามรี : สิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ประเภทสัตว์เคี้ยวเอื้อง ตามข้อมูลที่หามาเปรียบเทียบได้ กวามรีเป็นสัตว์จำพวกวัวขนยาว ขนที่โคนขาและข้างท้องยาว ขนหางเป็นพู่ยาว เขายาวโค้งเข้าตัวคล้ายกวาง ตัวขนาดใหญ่ เดินช้า มักอาศัยอยู่แถบภูเขาและอพยพเป็นฝูง
ไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ คาดการณ์ว่าสามารถเลี้ยงเพื่อใช้งานขนย้ายทรัพยากรจำนวนมากได้
หมวด B
มอสส์กีบม้า : พุ่มสูงประมาณ 3 เซนติเมตร เจริญเติบโตในบริเวณที่เปียกชื้น ใต้ร่มเงาไม้ใหญ่ พื้นที่ใกล้แหล่งน้ำ หนองบึงและในทางน้ำที่ไหลช้า ส่วนมากขึ้นปกคลุมดินโคลน ไม่มีดอกและเมล็ด ตรวจสอบแล้วพบสรรพคุณทางยา อาจมีการวิจัยเพื่อการรักษาโรคร้ายแรง
โกงกางใบใหญ่ : ต้นโกงกางธรรมชาติ โคนต้นมีรากค้ำยันเพื่อพยุงลำต้น สามารถดำรงต้นได้ในดินโคลน ไม่พบการกลายพันธุ์
เฟิร์นปลายไฟ : ต้นพุ่ม ใบกว้าง ขึ้นเป็นกลุ่ม ๆ ยามช่วงกลางวันปกติแทบไม่ต่างจากเฟิร์นทั่วไป แต่พอตกกลางคืน ปลายใบจะเรืองแสงขึ้น เป็นการผลิตสารเรืองแสงตามธรรมชาติ ความเข้มของแสงตกกระทบไม่มีผลต่อความสว่าง อยู่ในระหว่างการวิจัยเพื่อผลิตสารเรืองแสง ใช้ควบคุ่อาวุธกับ และการแกะรอย
พืชไม่ทราบชื่อ : ค้นพบว่าพืชตายก่อนถึงขั้นตอนการวิจัย
สนป่า : ต้นขนาดใหญ่ ไม่ผลัดใบ ขึ้นตามพื้นที่สูง สนแทบจะพืชชนิดเดียวที่พบการกลายพันธุ์น้อยที่สุด
มีการตั้งงานวิจัย ‘สนป่า’ ขึ้นในปี 75 อยู่ในระหว่างหาความแตกต่างจากสนที่เก็บมาได้ล่าสุด
เมเปิล : ลักษณะเป็นไม้พุ่ม ขนาดเล็กกว่าในฐานข้อมูลจากโลกเก่า ลักษณะใบปลายแยกมากขึ้น ไร้ผล ต้องการน้ำน้อย
ตะไคร่ดำ : ซากสาหร่ายเซลล์เดียวที่เคยยึดเกาะในพื้นที่ที่มีน้ำไหล มีความชื้นสูง มีออกซิเจน และคาร์บอนไดออกไซด์ เดิมทีเป็นสีเขียว แต่ดูดซับสารพิษจากท่อน้ำทิ้งและขาดน้ำ ทำให้ตายลง เป็นซากเกาะอยู่ภายในอุโมงค์
หญ้าก้านดำ : หญ้าที่ดูดซับสารอาหารและน้ำจากหยากไย่ภายในอุโมค์
พุ่มเล็บเสือ : พุ่มไม้ขนาดเล็กสีเขียวอ่อน ม้วนตัวจนเป็นก้อนกลม ขึ้นกระจายตามพื้น เกาะตามต้นไม้ใกล้เคียง ใบแข็งโค้งคล้ายเล็บของสัตว์ มักเกี่ยวเกาะไปตามวัตถุที่เข้าใกล้ ไม่สร้างพิษ สร้างความรำคาญ
ตำลึงใบแยก : ตำลึงธรรมชาติที่เกิดการกลายพันธุ์เพียงเล็กน้อย เพาะปลูกง่าย มีคุณค่าทางสารอาหารสูง และสรรพคุณที่ช่วยรักษาอาการของโรคเบาหวาน โลหิตจาง
เฟิร์นลายหินอ่อน : ต้นเป็นช่อ ใบกว้างลวดลายตามใบคล้ายหินอ่อนสีขาว ขนาดใหญ่สุดอยู่ที่ 1 เมตรครึ่ง มักอยู่ในที่ชื้น ใบขนาดใหญ่สามารถกักเก็บความชื้นได้นาน ทนพายุ ฟื้นตัวไว
ตะไคร้แดง : พืชสมุนไพรที่มีสีสันสดดูอันตราย แต่เมื่อตรวจสอบโดยละเอียดแล้วไม่พบสารพิษหรือสิ่งที่สร้างความผิดปกติกับสิ่งมีชีวิต มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ เพาะปลูกค่อนข้างใช้เวลา แต่สามารถนำไปปรุงอาหารได้
หัวมันสีฟ้า : หนึ่งในพืชตระกูลมันสำปะหลังที่กลายพันธุ์เฉพาะส่วนสีสัน หัวมันมีสีฟ้าทั้งด้านนอกด้านใน เปลือกเป็นพิษหากไม่ทำการปรุงสุก หัวขนาดเท่ากำปั้นเป็นแหล่งสะสมแป้ง เนื้อมันชนิดหวาน
ละอองเกสรเจ็บจี๊ด : เนื้อหาตามฐานข้อมูล ละอองพิษที่ปลิวในอากาศ สามารถตกค้างไม่เกิน 30 นาที หากสัมผัสจะเกิดอาการแพ้ เกิดผื่นคัน แสบร้อนตามผิวหนัง หากเข้าตาควรรีบล้างออกด้วยน้ำสะอาด
กาบหอยแครง : พืชตามธรรมชาติประเภทกินสัตว์ คอยดักจับสัตว์เล็ก ๆ กิน ส่วนมากเป็นแมลง หากต้นใหญ่พอสามารถกินพวกสัตว์ฟันแทะหรือไมเบลได้ ส่วนมากกลายพันธุ์จนมีขนาดใหญ่กว่าปกติหลายเท่า น้ำย่อยไม่รุนแรงพอให้เป็นภัยกับมนุษย์ในเวลารวดเร็ว ทนไฟสูง
ใบคลายน้ำครั่ง : ต้นไม้ที่ผลิตหมอกพิษออกมา ดูเป็นภัยยามค่ำคืน แต่กลับมีประโยชน์ การคลายหมอกพิษคือหนึ่งในกระบวนการกำจัดอากาศเสีย ต้นคลายน้ำครั่งจะดูดซับอากาศที่เป็นพิษในตอนกลางวัน และคายเป็นน้ำออกในช่วงเวลากลางคืน พิษที่คายออกมาจะตกค้างอยู่จนถึงเช้า ก่อนจะสลายไปเพราะอุณหภูมิที่สูงขึ้น
ต้นคลายน้ำครั่งอาจเป็นหนึ่งในสิ่งที่ช่วยปรับสภาพแวดล้อมให้ปลอดภัยต่อสิ่งมีชีวิตมากขึ้น แต่ยังถือว่าเป็นอันตรายยามค่ำคืน
น้ำในแม่น้ำ : น้ำในแม่น้ำสะอาดกว่าที่ฝ่ายวิจัยคิด สามารถใช้ทดแทนในการปลูกพืช และเลี้ยงสัตว์ได้
หมวด C
หลอดบรรจุสารสีฟ้า : ตรวจสอบแล้วพบว่าเป็น 'อะดรีนาลีน' เป็นฮอร์โมนสารสื่อประสาท และมีการใช้ในทางการแพทย์ เมื่อฉีดเข้าร่างกายจะเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อ เพิ่มการบีบตัวของหัวใจ และเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด
ชิ้นส่วนแผงผลิตไฟฟ้าที่แตกหัก : อยู่ในสภาพชำรุด เนื่องจากโครงสร้างอลูมิเนียมบิ่นจากความร้อน ทำให้ไม่สามารถคงสภาพและแตก ไม่สามารถใช้งานได้ ฝ่ายวิจัยอาวุธสามารถแยกชิ้นส่วนและนำส่วนที่ยังใช้ประโยชน์ได้มาใช้งานต่อไป
ชิ้นส่วนเนื้อเยื่อแห้งติดกระดูกของมนุษย์โลกเก่าจากสุสาน : การสร้างสถานที่ที่เรียกว่าสุสานนั้น สำหรับSHไม่มีความจำเป็นใด ๆ
-
เนื่องจากพื้นที่สำหรับสุสานมีไม่เพียงพอต่อจำนวนคนเสียชีวิต จึงไม่มีการจัดพื้นที่สำหรับสุสาน
-
กรณีที่มีคนเสียชีวิต SHจะนำเข้าสู่กระบวนการ แช่แข็งด้วยอุณหภูมิ -196c สร้างแรงสั่นสะเทือน แยกน้ำออก อัดให้เป็นผง แล้วส่งคืนสู่ครอบครัว
-
>>ตัวอย่างการจัดการกับศพผู้เสียชีวิต<<
-
และในพื้นที่ชั้นเดียวกับลานกิจกรรม จะมีลานอนุสรณ์สถาน สำหรับระลึกถึงผู้ที่จากไป ผู้ก่อตั้ง ผู้เสียสละ ผู้เป็นที่รัก สามารถมาแสดงความเคารพ หรือพิธีกรรมอวยพรทางศาสนาโดยไม่รบกวนผู้อื่น
ด้วยเหตุผลข้างต้น จึงเป็นเรื่องที่น่าสงสัยสำหรับสุสานที่พบ เนื้อเยื่อแห้งติดกระดูกนี้วิเคราะห์แล้วพบว่าระดับการเน่าเปื่อยของศพอยู๋ในระดับที่เสียชีวิตไม่เกิน 1ปีครั้งถึง 2ปี
อาจเป็นเพราะดิน หรือ สารพิษที่ชะลอการเน่าเปื่อนคล้ายผู้ติดเชื้อไวรัสV4801
ยังอยู่ในระหว่างการวิจัย อาจได้ข้อมูลอะไรเพิ่มหากมีการสำรวจไปยังสุสานอีก
อื่น ๆ
-
บันทึก และภาพถ่ายเขตป่าอบอุ่นเหนือพื้นที่SH1ขึ้นไป
-
อยู่ในระหว่างการวางแผนเพื่อขึ้นไปสำรวจ มีความเสี่ยงในการเดินทางสูง และอยู่ในพื้นที่ปลอดสัญญาณวิทยุ
-
-
วีดีโอบันทึกสภาพเสาสัญญาณและเหตุการณ์ที่สไพนโผล่ขึ้นมา (บันทึกโดยหุ่นยนต์สุนัข)
-
มีการบันทึกและวิเคราะห์เกี่ยวกับสิ่งที่ควรถูกเรียกว่า 'รัง' ของสไพน
-
มีการวิเคราะห์เพื่อหาทางจำกัด โดยการกลบหลุม หรือทิ้งสารอันตรายลงไป
-
-
ตัวอย่างเลือดและชิ้นส่วนเนื้อเยื่อบริเวณปากแผลของที่ถูกสไพนโจมตี
-
ผู้ติดเชื้อ PS40512 Marry Mandrake แผนกบุกเบิก และสำรวจ
-
-
บันทึกข้อมูลและรูปภาพของศพซันไกกลายพันธุ์
-
มีการจดบันทึก และแจ้งข้อมูลถึงนักบุกเบิกและสำรวจ เพิ่มการระมัดระวังต่อซันไกที่มีนิสัยก้าวร้าว
-