Saviors
Community
S
แถลงการณ์จาก SEA
ส่งถึง Safe Haven
เนื่องจากช่วงเวลาที่ผ่านมา SEA ได้ค้นพบปัญหาใหญ่สำหรับประชากร SH และเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ยากจะอธิบายในทันที แต่ประชาชนจะได้ทราบเรื่องราวหลังจากนี้ เพื่อความเข้าใจตรงกัน และเตรียมรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในเวลาอันใกล้ SHไม่อยากให้เกิดการจลาจลขึ้นอีก ไม่ว่าจะด้วยความไม่พอใจ ความสับสน หรือความเสียใจ SH ขอให้ประชาชนทุกคนเข้าใจว่าพวกเราสามารถผ่านพ้นปัญหานี้ไปด้วยกันได้ ช่วยกันเยียวยารักษา พวกเราพบทางแก้ไข
อย่างไรก็ตาม ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้ความร่วมมืออย่างดีเสมอมา
ข้อมูลจากทีมสำรวจSEA
จากข้อมูลการสำรวจภายใน ‘เลทบริดจ์’ มีการค้นพบอาคารหลายแห่ง และทรัพยากรที่สามารถนำมาใช้ได้ มีทีมค้นพบโรงไฟฟ้าสำหรับใช้งานทั่วทั้งเมือง ไม่มีข้อมูลว่าทำไมก่อนหน้านี้ถึงมีการปิดการใช้งานไฟฟ้า คาดว่าเป็นการประหยัดพลังงาน และหรือกักขังผู้ติดเชื้อที่อยู่ในอาคารปิด มีการสำรวจพบหมู่บ้านจัดสรรที่ถูกดัดแปลงเพื่อรับมือกับภัยธรรมชาติ สิ่งปลูกสร้างสำหรับป้องกันผู้ติดเชื้อ สัตว์อันตราย ทีมค้นพบโกดังเก็บอาวุธ และพาหนะโลกเก่า
มีความเป็นไปได้สูงที่พวกเราสามารถขึ้นไปเริ่มต้นอยู่อาศัยในเมืองนั้นได้ เพียงแต่ต้องสร้างที่อยู่อาศัยที่แข็งแรง กำหนดพื้นที่ควบคุมอุณหภูมิ และพื้นที่เปิดสำหรับการปรับตัว แต่พื้นที่ข้างบนยังคงเป็นอันตรายจากสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ ประชาชนที่จะย้ายมาต้องเตรียมตัว เตรียมใจให้พร้อมรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน คนที่แข็งแรงจะได้ขึ้นมาก่อน และเป็นประชากรส่วนน้อยเท่านั้นที่จะขึ้นมาในฐานะฝ่ายทดลองอาศัย ขอให้ครอบครัวที่มีความประสงค์จะขึ้นมาอาศัย ยินยอมรับข้อตกลง และรับทราบระเบียบการอยู่อาศัยภายนอก SH ไม่สามารถให้ความคุ้มครองได้ตลอด
สำหรับประชากรที่มีความประสงค์จะเข้าช่วยเหลือทีมสำรวจ สามารถแจ้งความประสงค์ได้ที่ฝ่ายดูแลพลเรือน โดยระบุให้ชัดเจนว่าจะเข้าช่วยเหลือในฝ่ายไหน สามารถเลือกช่วยเหลือได้ทั้ง SH หรือ SEA
Safe Haven ขอความร่วมมือช่วยเหลือในงานประจำแผนก งานลาดตระเวน ขนย้ายเสบียง งานก่อสร้างหน้าฐานSH ช่วยนำส่งของ และงานจัดการเอกสาร รวมถึงขนย้ายผู้บาดเจ็บที่กลับจาก SEA มารักษา
ระมัดระวังในการเข้าพื้นที่เพาะปลูกด้านหน้าฐาน SH พื้นที่เหล่านั้นเป็นงานทดลองเพาะปลูกที่เพิ่งเริ่มต้นขึ้นหลังจากประสบความสำเร็จภายในแล็บ โดยเป็นการปลุกพืชแบบเปิด ป่าถูกโค่นถางหญ้าเป็นลานโล่ง และทำแปลงปลูกพืชหลายชนิด
ขออาสาสมัครเฝ้าระวังสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ ผู้ติดเชื้อ หรือสัตว์ป่า เข้าตรวจสอบระบบรดน้ำ และผ้าใบกรองแสงแดดตามเวลา
SEA ขออาสาสมัครช่วยเหลือในงานลาดตระเวน งานสำรวจอาคาร จำกัดผู้ติดเชื้อที่จะเข้ามาใกล้ฐานSEA ออกสำรวจจัดหาเสบียง รวมถึงงานภายในฐาน งานโรงครัว จัดการเอกสารใหม่เก่าที่กองพะเนิน และงานรักษาผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการสำรวจ
ข้อมูลจากฝ่ายสาธารณสุข SEA
สืบเนื่องจากข้อมูลการทดลองวัคซีนต้านไวรัส 'Enigma'
เป็นที่ทราบกันดี ว่าประชากร SH ในตอนนี้นั้นไม่สามารถอาศัยบนพื้นโลกได้ ปัญหาใหญ่ ๆ มาจากการอาศัยอยู่ใต้ดินเป็นระยะเวลานาน อาศัยอยู่ในสถานที่ปิด อุณหภูมิคงที่ตลอด 24 ชั่วโมง และขาดสารอาหารบางชนิด แรกเริ่มมนุษย์จากSHสามารถหายใจและใช้ชีวิตบนพื้นโลกได้ แต่ยิ่งนานไปไวรัส Enigma จะค่อย ๆ เติบโตขึ้น อาจล้มป่วย ผู้ป่วยจะมีปัญหากับการเผชิญสภาวะเปลี่ยนแปลงพื้นที่ อากาศ อุณหภูมิ แสงแดด เห็นผลชัดในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิร้อนจัด หรือขณะพบเจอภัยธรรมชาติ
เบื้องต้นแผนกสาธารณสุข SEA ได้แจ้งรายชื่อผู้ที่มีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อ ทั้งจากไข้หวัดใหญ่ ได้รับบาดแผลฉกรรจ์ กระดูกหัก เสียเลือดมาก ถูกยิง สูญเสียอวัยวะ หรือไม่สามารถทำการรักษาด้วยวัคซีนที่มีได้ มีการแบ่งสัดส่วนพื้นที่ตามระดับความรุนแรง
แต่อย่างไรก็ตามด้วยพื้นที่ที่มีจำกัด บวกกับผู้บาดเจ็บมีจำนวนมาก จึงมีคำสั่งให้ส่งผู้บาดเจ็บกลับไปยัง SH
William Page แผนกบุกเบิกและสำรวจ
-
ถูกระบุว่าเป็นผู้รอดชีวิตจากการใช้วัคซีนต้นแบบ Enigma
-
ถูกส่งกลับ SH โดยเข้ารับการรักษา ตรวจสอบ กักกันเชื้อภายในชั้น 32
-
ได้รับห้องพักพิเศษ ห้องนอน ห้องครัว ห้องน้ำในตัว ไม่จำกัดระบบสื่อสาร
-
สามารถขอออกนอกห้องได้ แต่ถูกจำกัดบริเวณให้อยู่ภายในชั้น 32 โซนปลอดเชื้อ พร้อมเจ้าหน้าที่คุ้มกัน
-
-
งดให้ยาสลบ เพิ่มจำนวนอาหารและน้ำดื่มแก่ วิลเลี่ยม เพจ โดยเฉพาะ
-
มีนักวิจัยมาขอตรวจเลือดทุก 12 ชั่วโมง
-
เพิ่มระดับคุ้มกัน มีเจ้าหน้าที่คอยเฝ้าหน้าห้องพัก เพื่อความปลอดภัยจากการก่อจลาจล
-
ผู้รับผิดชอบคนไข้ระบุชื่อ อมันดัส เลนเนส
Gino Perez แผนกบุกเบิกและสำรวจ
-
ถูกระบุว่าเป็นผู้ติดเชื้อ V4801-NG วัคซีนที่มีไม่สามารถรักษาหายขาดได้
-
ถูกส่งกลับ SH โดยเข้ารับการรักษา ตรวจสอบ กักกันเชื้อภายในห้องพักชั้น 32
-
จำเป็นต้องรับวัคซีนทุก ๆ 24 ชั่วโมง
-
เบื้องต้นมีไข้สูง เหงื่อออกมาก ต้องการน้ำและอาหาร อยู่ในขั้นตอนการเฝ้าระวัง
-
ตรวจพบอาการปวดศีรษะ อาเจียนเป็นเลือด ซูบผอม เล็บและเส้นผมยาวไวกว่าปกติ
-
สามารถเข้าเยี่ยมได้จำกัดช่วงเวลา 13.00-18.00 ผู้เข้าเยี่ยมจำเป็นต้องสวมหน้ากากกันเชื้อแพร่ในอากาศ
-
ผู้รับผิดชอบคนไข้ระบุชื่อ อมันดัส เลนเนส
Gabriel Cross แผนกบุกเบิกและสำรวจ
- ถูกระบุว่าเป็นผู้ป่วยที่เซลล์ในร่างกายไม่สามารถเข้ากับวัคซีนรักษาได้ และเป็นไวรัส Enigma
-
เข้ารับการรักษา ตรวจสอบ กักกันเชื้อภายในเขตปลอดเชื้อSEA (ชั่วคราว)
-
เมื่อมีการตรวจสอบแล้วพบว่าปลอดภัยต่อพื้นที่สาธารณะ ก็ถูกปล่อยตัวในเวลาต่อมา
-
มีการฝังชิปขนาดเท่าเมล็ดข้าวในข้อมือเพื่อคอยแจ้งอาการ
-
สามารถเลือกจะอยู่ที่ SEA ต่อหรือขอกลับ SH ได้
-
-
ร่างกายอยู่ในขั้นตอนการเสื่อมสภาพขั้นต้น แต่ไม่รุนแรง
-
เมื่อกลับถึง SH อาการหายใจไม่ออก หรือตาพร่ามัวลดน้อยลง
-
-
หลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีอุณหภูมิเปลี่ยนแปลง
-
ถูกระบุว่าเป็นผู้ป่วยที่ แพร่เชื้อไม่ได้
Edelweiss Drite แผนกสาธารณสุข
-
ระบุว่าเป็นผู้ป่วยที่เซลล์ในร่างกายไม่สามารถเข้ากับวัคซีนรักษาได้ และเป็นไวรัส Enigma
-
เข้ารับการรักษา ตรวจสอบ กักกันเชื้อภายในเขตปลอดเชื้อSEA (ชั่วคราว)
-
เมื่อมีการตรวจสอบแล้วพบว่าปลอดภัยต่อพื้นที่สาธารณะ ก็ถูกปล่อยตัวในเวลาต่อมา
-
มีการฝังชิปขนาดเท่าเมล็ดข้าวในข้อมือเพื่อคอยแจ้งอาการ
-
สามารถเลือกจะอยู่ที่ SEA ต่อหรือขอกลับ SH ได้
-
-
ร่างกายอยู่ในขั้นตอนการเสื่อมสภาพขั้นต้น แต่ไม่รุนแรง
-
เมื่อกลับถึง SH อาการหายใจไม่ออก หรือตาพร่ามัวลดน้อยลง
-
-
หลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีอุณหภูมิเปลี่ยนแปลง
-
ถูกระบุว่าเป็นผู้ป่วยที่ แพร่เชื้อไม่ได้
Caleb Chang แผนกบุกเบิกและสำรวจ
-
เข้ารับการผ่าตัดที่ศีรษะ อยู่ในระหว่างการพักฟื้น
-
พ้นขีดอันตราย ไม่พบไวรัสผิดปกติแทรกซ้อน
-
หลังจากฟื้นแล้ว สามารถเลือกจะอยู่ที่ SEA ต่อหรือขอกลับ SH ได้
-
ผู้ป่วยอาจมีอาการสูญเสียความจำระยะสั้นในช่วงแรก การพูด ระบบความคิด และการมองเห็น ไม่ชัดเจนเท่าที่ควร
-
หลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีอุณหภูมิเปลี่ยนแปลง
สำหรับผู้ป่วยที่สามารถเข้าเยี่ยมได้ก่อนหน้านี้ จะถูกรับรองว่าเป็นผู้บาดเจ็บที่ไม่มีการแพร่เชื้อใด ๆ เมื่อพักฟื้นเรียบร้อยแล้ว สามารถขอกลับมาทำงานได้ สามารถเลือกจะอยู่ที่ SEA ต่อหรือขอกลับ SH ได้ตามสะดวก
เมื่อกลับไปยัง SH แล้ว ยังสามารถขอออกมาทำงานที่ SEA ต่อได้ตามความสนใจ
ข้อมูลจากฝ่ายสวัสดิการ และการเกษตรSEA
สืบเนื่องจาก โครงการทดลองปลูกพืชบนพื้นโลก 'แอช บราวน์' ได้เริ่มต้นการเพาะปลุกพืชที่หน้าฐาน SH และเริ่มขั้นตอนการดัดแปลงพันธุกรรมพืชเพิ่มเติม พยายามการสร้างคุณสมบัติหรือคุณลักษณะที่จำเพาะเจาะจงตามความต้องการ
พืชส่วนมากที่เริ่มปลูกที่หน้าฐาน SH เติบโตอย่างแข็งแรง มีความทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมมากกว่าก่อนหน้า แม้จะมีปัญหาเกี่ยวกับอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่สามารถควบคุมได้
ปัญหาใหญ่ที่สุดในตอนนี้คือ ศัตรูพืชตามธรรมชาติ จำเป็นต้องอาศัยกำลังคนในการตรวจสอบ เฝ้าระวังพวกแมลง หรือตัวทากมากัดกินผลผลิตพืช รวมถึงสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ที่บุกรุกพื้นที่เพาะปลูก
ล่าสุดมีคนพบสไพนขนาดเล็กบุกเข้ามาทำลายแปลงเพาะปลูก แม้พิษของพวกมันจะไม่แพร่ในอากาศ แต่ดินบริเวณนั้นได้เสียหายจากเมือกเขียวเป็นวงกว้าง จึงเร่งขออาสาสมัครจำกัดสไพนอย่างเร่งด่วน (เป็นอันตราย)