Saviors
Community
S
Event #4 Genesis_of_the_new_era
ประเภท : มีผลกระทบต่อเนื้อเรื่องหลัก
รายละเอียด : bit.ly/2XHeTcu
เทปบันทึกเหตุการณ์ประจำวันที่ : 31 กรกฎาคม ค.ศ. 89
เวลา 15.00 น. ภายใน Safe Haven
หลังพายุสงบ SEA ได้ทำการเปิดประตูอีกครั้ง เจ้าหน้าที่สวัสดิการ และฝ่ายพลเรือนช่วยกันเก็บกวาดพื้นที่บริเวณทางเข้า ทีมบุกเบิกออกช่วยเหลือทีมสำรวจที่ยังตกค้างข้างนอก นำพากลับเข้าพื้นที่ปลอดภัย ส่งมอบข้อมูล คืนสรรพาวุธ เข้ารับการรักษา นักสำรวจคนใดที่ติดเชื้อจนถึงระยะที่ไม่สามารถรักษาเป็นปกติได้ ไม่ว่าจะได้รับเชื้อไวรัสเป็นระยะเวลานาน หรือทีมไร้วัคซีนป้องกัน จะถูกกักกันในโซนสำหรับผู้ติดเชื้อโดยเฉพาะ และงดเข้าเยี่ยม แม้จะสูญเสียไปไม่น้อย แต่ผลลัพธ์ที่ได้ย่อมคุ้มค่า หน่วยบันทึกข้อมูลร่วมกับทีมบุกเบิกลงพื้นที่สำรวจรอบนอกฐานอีกครั้ง พายุพัดพาอะไรออกไป พัดพาอะไรกลับมา
เมื่อผลการตัดสินใจของประชากรหมู่มากบอกให้ ‘ออก’
การเตรียมการเพื่อออกจากบ้านที่มีอายุเกือบร้อยปีก็เริ่มต้นขึ้น
กำลังพลจำนวนมากได้รับคำสั่งให้ไปค้นหาความเป็นไปได้ ที่เมือง ‘เลทบริดจ์’ ไม่ใกล้ไม่ไกลจากที่ตั้งของ Safe Haven การถ่ายทอดคำสั่งของภารกิจในครั้งนี้ต่างออกไปจากภารกิจที่ผ่านมา คำสั่งเหล่านั้นได้ถูกถ่ายทอดแค่ภายในแผนก จากการสรุปเพื่อทำเอกสารทางประวัติศาสตร์พบว่า แต่ละแผนกมีจุดมุ่งหมายในการปฏิบัติภารกิจแตกต่างกันไป
ไม่มีใครรู้ถึงเหตุผลที่ซ่อนไว้ในภารกิจย่อยนั้น
อย่างน้อยก็ในตอนแรก
แผนกสวัสดิการ และการเกษตร นำโดยเจโฮนา วินน์ ได้รับคำสั่งให้หาตัว 'เอ็ดเวิร์ด เพรสคอทท์' โดยไม่มีเบาะแสอะไรไปมากกว่าคำกล่าวเลื่อนลอยที่ว่า ‘หากหาตัวเขาพบ เราอาจจะเจอทางรอด’
แต่ไม่พบ ไม่มีใครพบเอ็ดเวิร์ด
มีเพียงบันทึกที่เกี่ยวข้อง กับข้าวของ และร่องรอยการใช้ชีวิตของเขากระจายอยู่ในเมือง
บางทีเจโฮนาอาจหมายความว่า หากเขาอาศัยอยู่ในเมืองได้ พวกเราก็อาจจะใช้ชีวิตอยู่ได้อย่างไม่ลำบากเช่นกัน
แต่หากมองย้อนกลับไป เหตุผลของหัวหน้าแผนกสวัสดิการอาจไม่ใช่เพียงแค่นั้น วิทยุที่ทีมสำรวจเก็บได้ได้กล่าวถึงการมีอยู่ของ ‘อารยธรรม’ หรืออาจเป็น ‘สังคม’ แต่ที่แน่ ๆ มันเป็นที่ที่มนุษย์สามารถอาศัยอยู่ได้ และอยู่อย่างผาสุขเสียด้วย
มันอาจเป็นสถานที่ที่เอวา และทีมของเธอเดินทางไป
และจากข้อมูลในวิทยุ พวกเราคงสูญเสียเอวา และบุคลากรทรงคุณค่าไปแล้ว ข้อมูลที่บันทึกไว้แสดงถึงความตั้งใจของเอวา ที่พยายามจะหาทางเข้าไปในสถานที่ที่พวกเขาเรียกว่า ‘เอเดน’ ที่แห่งนั้นฟังดูปลอดภัย แต่ที่นั่นไม่ต้อนรับเอวา ไม่ต้อนรับใครในพวกนั้น แม้จะขอร้อง และคงไม่ต้อนรับพวกเราเช่นกัน
ทางรอดนี้ควรเก็บไว้เป็นตัวเลือก แต่ยังไม่แน่ใจ บางทีอาจมีหนทางอื่น ?
มีการวิเคราะห์ถึงคลื่นวิทยุที่พบเจอว่ามีความเกี่ยวข้องกับ Communication Node - 1002 หรือไม่
สัญญาณเสียงคลื่นความถี่ : 485672719
พิกัดสัญญาณ : Post-Waterton; Main Fort Reciever
สถานะ : ขาดการติดต่อ
[ พีดับเบิ้ลยู เมนฟอร์ทเรียก เพลสคอทท์
แจ้งรายงานพบตัวบุคคลนำสิ่ง เอวา-จีน และทีม
ฉันพยายามแล้ว
พวกเขาไม่ผ่านด่านกักกันเชื้อ
ได้โปรด ถ้าพวกนายยังทำวัคซีนไม่เสร็จ อย่าส่งใครมาเลย
ฉันกับพวกที่นี่ก็ไม่อยากทำร้ายใครเหมือนกัน
แต่นายก็รู้ว่าทำไมเราถึงเปิดประตูให้ไม่ได้
ทำวัคซีนให้เสร็จโดยเร็ว
ขอให้พระเจ้าคุ้มครอง ]
แผนกดูแลพลเรือน ภายใต้การนำของอัลบี้ เทรย์แซคนั้นไม่มีอะไรเป็นพิเศษ พวกเขาเน้นย้ำถึงการดูแล และเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับประชากรทุกคน พวกเขายึดมั่นในอุดมการณ์ และเหมือนว่าเจ้าหน้าที่แผนกดูแลพลเรือนทุกคนจะได้รับแผนที่คร่าว ๆ เป็นแผนที่เก่าที่ไม่แสดงรายละเอียดใดไปมากกว่าขอบเขตพื้นที่อันตราย นี่อาจทำให้การปฏิบัติภารกิจนั้นลดความเสี่ยงไปได้มาก
>>> แผนที่ <<<
และด้วยเหตุนี้จึงพบว่าในเมืองยังมีพื้นที่ที่เป็นอันตรายอยู่มาก
ยังต้องใช้ความร่วมมือจากหลาย ๆ ฝ่าย หากมีการอพยพประชากรจริง
มีการประกาศออกมาให้ประชากรทาง SH รับทราบ เกี่ยวกับเมือง วิเคราะห์ถึงสภาพพื้นที่ การระวังผู้ติดเชื้อ สัตว์กลายพันธุ์ที่พบเจอ และชี้แนะให้เห็นถึงโอกาสที่ว่าเมืองนี้ 'น่าจะ' อยู่ได้ เพียงแต่พวกเรายังอ่อนแอเกินกว่าจะขึ้นไปอยู่ในทันที ขอให้ค่อยเป็นค่อยไป
แผนกบุกเบิก และสำรวจ มีการค้นพบอาคารหลายแห่ง และทรัพยากรที่สามารถนำมาใช้ได้ มีทีมค้นพบโรงไฟฟ้าสำหรับใช้งานทั่วทั้งเมือง ไม่มีข้อมูลว่าทำไมก่อนหน้านี้ถึงมีการปิดการใช้งานไฟฟ้า คาดว่าเป็นการประหยัดพลังงาน และหรือกักขังผู้ติดเชื้อที่อยู่ในอาคารปิด มีการสำรวจพบหมู่บ้านจัดสรรที่ถูกดัดแปลงเพื่อรับมือกับภัยธรรมชาติ สิ่งปลูกสร้างสำหรับป้องกันผู้ติดเชื้อ สัตว์อันตราย ทีมค้นพบโกดังเก็บอาวุธ และพาหนะโลกเก่า รวมไปถึงโรงพยาบาลที่มีการคุ้มกันโดยหน่วยงานไม่ทราบฝ่าย เครื่องมือเครื่องใช้ส่วนมากอยู่ในสภาพใช้งานได้ แม้บางชิ้นเสื่อมสภาพลง แต่ก็ยังใช้การได้ดี
บางทีอาจมีการนำทรัพยากรเหล่านี้มาใช้งาน ?
มีรายงานกล่าวถึงห้องทดลองภายในโรงพยาบาล และหน่วยงานที่คุ้มครองโรงพยาบาลอาจมาจากเอเดน ?
ในระหว่างการสำรวจ มีการค้นพบโดรนไม่ทราบสังกัดบริเวณทิศเหนือของเมือง ทีมวิจัยเร่งวิเคราะห์ข้อมูลออกมา คาดเดาวัสดุที่ใช้สร้างเป็นวัสดุคนละอย่างกับ SH และไม่พบวัสดุที่ลักษณะคล้ายกันในบริเวณใกล้เคียง พร้อมทั้งการค้นพบยอดโดม หรือหลังคาของสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่ที่ห่างไกลออกไป คาดการณ์จากตัวเมืองอาจใช้ระยะเวลาในการเดินเท้าประมาณ 3 วัน
ทีมสำรวจได้พบ ‘ทหาร’ หรือบุคคลที่กล่าวอ้างว่าตัวเองมาจาก ‘เอเดน’ พวกเขาปฏิเสธการให้ข้อมูล ปฏิเสธการเข้าถึงพื้นที่ มีเพียงคำกล่าวอ้างถึงเอวา ทีม และการเสียชีวิต
ถึงจะเป็นการปฏิเสธ แต่ข้อมูลที่ได้มาก็เพียงพอที่จะใช้ยืนยันถึงการมีอยู่ของ ‘เอเดน’
ท้ายสุดรายงานถึงการค้นพบหลุมขนาดใหญ่กระจายทั่วทั้งเมือง มีเส้นทางท่อระบายน้ำขนาดใหญ่ ทิ้งร้าง ตัน และเป็นที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์หลากหลายชนิด ทีมพบรังแมงมุมประหลาดในอาคารใกล้ป่า พบผู้ติดเชื้อที่กลายพันธุ์จนรูปร่างไม่ใช่มนุษย์ ฝูงเงาพิราบที่ดุร้าย รวมถึงสไพนในท่อระบายน้ำ
มีการตั้งทีมเฉพาะในการวิเคราะห์สิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์เหล่านี้ว่าสามารถกำจัดได้อย่างไรบ้าง เพื่อไม่ให้เป็นอันตรายต่อประชาชน
ในขณะเดียวกันทาง แผนกสาธารณสุข ดูเหมือนจะไม่มีความสนใจต่อการสำรวจเมืองเลยแม้แต่น้อย เมื่อสูญเสียหัวหน้าแผนกไป อำนาจสั่งการแทนจึงตกอยู่กับอมันดัส เลนเนส นักวิจัยที่มีความสนใจอยู่กับงานทดลองเป็นหลัก และเขายังพยายามใช้งานคนในแผนกเพื่อการวิจัยที่อ้างว่าทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวม
พัสดุพิเศษถูกส่งมอบให้กับทุกคนในแผนก เพื่อนำส่งไปยังที่หมาย
ทีมสำรวจพบโรงพยาบาลที่เพียบพร้อมไปด้วยอุปกรณ์
สร้างความสงสัยใคร่รู้ ถึงการมีอยู่ของศูนย์วิจัยในเมือง
มีข้อมูลเกี่ยวกับศูนย์วิจัยแห่งนั้นเล็กน้อย รายงานถึงการทดลองปลูกพืชบนพื้นโลก และดูเหมือนว่าจะประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ผลผลิตจากหยาดเหงื่อแรงกายของนักวิจัยนับเป็นความก้าวหน้า นับเป็นความหวังให้พวกเราที่จะขึ้นมาอาศัยอยู่บนพื้นโลก
แต่ความหวังนั้นริบหรี่เหลือเกิน เมื่อมีความจริงหลุดรอดออกมาว่า ร่างกายของมนุษย์ทุกคนที่อยู่ใน Safe Haven นั้นไม่ได้แข็งแรงอย่างที่ควรเป็น มีคนแสดงอาการผิดปกติขณะทำการสำรวจ อาจเป็นเชื้อไวรัสที่แฝงตัว ? อาจเป็นเพราะภูมิคุ้มกันที่อ่อนด้อย ? แต่อาการของโรคบ่งชี้ไปในทางเดียวกัน เมื่อได้เผชิญกับสภาวะอุณหภูมิที่สูงขึ้นเป็นเวลานาน ร่างกายจะเกิดอาการผิดปกติ หอบหายใจรุนแรง หัวใจเต้นเร็วกว่าที่ควร ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน หรือหากปล่อยไว้นานอาจมีอาการตาบอดได้
แผนกปกครองรู้เรื่องนี้หรือเปล่า ? หรือพวกเขารู้มาโดยตลอดแต่ไม่บอกกับพวกเรา ?
เหตุผลเป็นอย่างไรไม่มีใครทราบแน่ชัด
แต่ปัญหานี้มีทางออก มีการค้นพบวัคซีนขึ้น วัคซีนที่จะช่วยพวกเราทั้งหมด
William Page ได้รับมันมา แถมมันก็ทำปฏิกิริยาที่เป็นผลดีกับเขาเสียด้วย
ความหวัง ?
มีความเป็นไปได้มากแค่ไหน หากทุกคนได้รับวัคซีน ทุกคนสามารถย้ายขึ้นมาอยู่บนพื้นโลกอีกครั้งโดยไม่ต้องประสบปัญหาสุขภาพ หรือแม้แต่เข้าไปใน ‘เอเดน’
ทางเลือกของพวกเรายังไม่ชัดเจนนัก เพราะภารกิจที่จบลงก่อนกำหนดเนื่องจากพายุ และปัญหาอื่น ๆ
แต่การเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
ยอดผู้สูญหาย
ยอดผู้สูญหายโครงการ Genesis of the new era และการสำรวจ สรุปแล้วทั้งสิ้น 32 คน
แผนกบุกเบิก และสำรวจ 12 คน
แผนกสาธารณสุข 8 คน
แผนกสวัสดิการ และการเกษตร 7 คน
แผนกดูแลพลเรือน 5 คน
หมายเหตุ : อุบัติเหตุระหว่างการสำรวจส่วนใหญ่เกิดจากการไม่คุ้นชินพื้นที่ มีนักสำรวจจำนวนมากที่ได้รับอันตรายจากสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ จากเหตุการณ์ธรรมชาติ และความประมาท
หมายเหตุ2 : ยอดผู้สูญหายนี้ ไม่รวมผู้เสียชีวิตจากการเข้าปะทะกับหน่วยงานไม่ทราบฝ่าย
ลำเลียงเสบียง
มีรายงานแจ้งถึงความสำเร็จของการลำเลียงเสบียงจาก SH1 เสบียงส่วนมากได้ขนย้ายกลับเข้า SH เป็นที่เรียบร้อย และมีบางส่วนถูกโยกย้ายมายัง SEA เพื่อการสำรวจ และการใช้งานของบุคคลในพื้นที่
มีข่าวลือหนาหูว่า ที่ SEA กำลังพยายามนำพืชผลที่ปลูกขึ้นบนพื้นโลกมาทำอาหารให้นักสำรวจกิน มีการลงพนันเดาผลลัพธ์อย่างลับ ๆ ที่ SH ว่าจะมีใครกลายพันธุ์จากการกินพืชพวกนี้ไหม แต่ข่าวลือก็ได้เลือนหายไปเพราะคนที่SEAยังเป็นมนุษย์ และสุขภาพดี
มีรายงานจากแผนกดูแลพลเรือน บ่งชี้ถึงสภาพจิตใจประชากร โดยประเมินจากการทำงาน การกินอาหาร ข่าวลือ และการแสดงความคิดเห็นในที่สาธารณะ ประชากรส่วนมากกระตือรือร้นกับข่าวที่มาจากSEA มีการเข้าชมตามติดวิทยุรายงานสถานการณ์สำรวจ มีความเห็นที่เปิดกว้างมากขึ้นสำหรับสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ บ้างกลัว บ้างคิดว่ามันเป็นเรื่องท้าทาย มีคนสนใจสมัครเข้าแผนกบุกเบิกจำนวนมาก หวังช่วยเหลือการสำรวจและร่วมขับเคลื่อนระบบงานปัจจุบัน
มีกลุ่มคนจำนวนหนึ่งที่ทำการต่อต้านแนวคิดออกไปอาศัยข้างนอก แต่ไม่รุนแรงถึงขั้นก่อจลาจล อยู่ในระหว่างการติดตาม
ทรัพยากรปัจจุบัน
อาหาร 60% (+5)
น้ำ 40% (-2)
แร่เหล็ก 48% (+20)
ยารักษาโรค 75% (+10)
การแจกจ่ายเสบียงกลับมาอยู่ในระดับคงที่ เป็นปกติ แต่ยังมีการจำกัดน้ำดื่มในบางครั้ง บางเวลา
อยู่ในขั้นตอนการนำน้ำจากธรรมชาติมาใช้งาน และทดแทน
การเลื่อนตำแหน่ง
เนื่องจากผลงานที่ผ่านมา ความสำเร็จในการสำรวจ ผลลัพธ์การผลิตยารักษาโรค ความทุ่มเทในการดูแลจัดการปัญหาประชาชน รวมถึงได้รับความเห็นและคำชมอย่างมากจากหลาย ๆ ฝ่าย ทางแผนกปกครองจึงขอกล่าวแสดงความยินดี และอนุมัติการเลื่อนตำแหน่งให้บุคคลที่มีรายชื่อต่อไปนี้
Gilian Page เข้ารับตำแหน่ง หัวหน้าแผนกสำรวจ และบุกเบิก
Debra Phelps เข้ารับตำแหน่ง หัวหน้าแผนกสาธารณสุข
Marrow Prince เข้ารับตำแหน่ง แผนกปกครอง ฝ่ายวางแผน และจัดการทรัพยากรมนุษย์
ตำแหน่งใหม่นี้มีผลในทันทีที่มีการประกาศอย่างเป็นทางการ
จะมีจดหมายแจ้งกำหนดการณ์ประชุมในเร็ว ๆ นี้
โครงการทดลองปลูกพืชบนพื้นโลก
สืบเนื่องจากระหว่างทำภารกิจ ทีมสำรวจได้พบเจอและให้การช่วยเหลือนักวิจัยจากโรงพยาบาลในเมือง เขาเป็นหนึ่งในนักวิจัยโครงการทดลองปลูกพืชบนพื้นโลก หลังจากทีมได้ทำการคุ้มกันเขากลับมารักษาตัวที่ฐาน เบื้องต้นเขาไม่ได้ให้ข้อมูลอะไรไปมากกว่าการทดลองปลูกพืช แม้เจ้าตัวให้การปฏิเสธบางคำถามเกี่ยวกับการระบุตัวตน แต่ชื่อ 'แอช บราวน์' ถูกระบุในฐานะผู้ริเริ่มโครงการนี้ เขาได้บอกคร่าว ๆ ถึงการทดลอง ขั้นตอนการดัดแปลงพันธุกรรมพืช การสร้างคุณสมบัติหรือคุณลักษณะที่จำเพาะเจาะจงตามความต้องการ การให้น้ำเพื่อเพาะปลูกพืชเหล่านั้น
พืชส่วนมากที่ปลูกใน SH มีความต้านทานต่อศัตรูพืชน้อย ไม่คงทนต่อสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม รวมถึงอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงเฉียบพลัน ทีมวิจัยเริ่มทำการทดลองเพิ่มจำนวนสารโภชนาการในพืช เช่น วิตามิน หรือสารอาหารอื่น ๆ ที่ประชากรขาดแคลน
การปลูกพืชประสบผลสำเร็จ แต่ยังมีพืชบางชนิดที่เมล็ดจาก SH ไม่สามารถทำการเพาะปลูกได้
อาจต้องใช้เวลาปรับแต่งมากกว่านี้
การทดลองวัคซีนต้านไวรัส 'Enigma'
เป็นที่ทราบกันดี ว่าประชากร SH ในตอนนี้นั้นไม่สามารถอาศัยบนพื้นโลกได้ ปัญหาใหญ่ ๆ มาจากการอาศัยอยู่ใต้ดินเป็นระยะเวลานาน อาศัยอยู่ในสถานที่ปิด อุณหภูมิคงที่ตลอด 24 ชั่วโมง และขาดสารอาหารบางชนิด แรกเริ่มมนุษย์จากSHสามารถหายใจและใช้ชีวิตบนพื้นโลกได้ แต่ยิ่งนานไปไวรัส Enigma จะค่อย ๆ เติบโตขึ้น อาจล้มป่วย ผู้ป่วยจะมีปัญหากับการเผชิญสภาวะเปลี่ยนแปลงพื้นที่ อากาศ อุณหภูมิ แสงแดด เห็นผลชัดในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิร้อนจัด หรือขณะพบเจอภัยธรรมชาติ
ทุกคนล้วนอ่อนแอ นี่อาจเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักการเสียชีวิตของประชากรส่วนมากใน SH ก็ได้
เพราะเช่นนั้นถึงได้มีโครงการ Enigma เกิดขึ้น
โครงการนี้ไม่ใช่งานทดลองยาเพื่อกำจัดไวรัส แต่เกิดขึ้นเพื่อสร้างหนทางการมีชีวิตรอดของมนุษย์
แม้รายละเอียดโครงการจะยังอยู่ในขั้นตอนการประมวลผลก่อนนำออกสู่พื้นที่สาธารณะ แต่ประชาชนทุกคนสามารถวางใจได้ ไม่มีประวัติการกลายพันธุ์สำหรับไวรัสตัวนี้ เท่าที่รู้ ไวรัสเพียงแค่ทำให้ร่างกายอ่อนแอเท่านั้น
การกักกันเชื้อ
เบื้องต้นแผนกสาธารณสุขได้แจ้งรายชื่อผู้ที่มีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อ ทั้งจากไข้หวัดใหญ่ ได้รับบาดแผลฉกรรจ์ กระดูกหัก เสียเลือดมาก ถูกยิง สูญเสียอวัยวะ หรือไม่สามารถทำการรักษาด้วยวัคซีนที่มีได้ มีการแบ่งสัดส่วนพื้นที่ตามระดับความรุนแรง แต่อย่างไรก็ตามด้วยพื้นที่ที่มีจำกัด บวกกับผู้บาดเจ็บมีจำนวนมาก สถานที่พักฟื้นจึงแคบลงตามไปด้วย ระวังนอนผิดเตียง
สำหรับการกักกันเชื้อจะเป็นไปในรูปแบบเดียวกับเหตุการณ์ช่วงแรก ผู้ป่วยจะถูกนำตัวเข้าเขตกักกันเชื้อ พื้นที่ว่างเปล่าสีขาว เตียงนุ่ม พร้อมเครื่องมือแพทย์ จะมีพยาบาลแวะเวียนมาขอแบ่งเลือดเพื่อตรวจสอบ ทำการตรวจชีพจร และถามไถ่อาการ ผู้ป่วยไม่สามารถออกนอกเขตสถานพยาบาลได้ สามารถเข้าเยี่ยมได้บางกรณี
สามารถเข้าเยี่ยมได้
พื้นที่สำหรับผู้ป่วยที่อยู่ในระยะเฝ้าระวัง หลายประเภทแผลและการรักษา แต่รับรองว่าไม่มีการแพร่เชื้อใด ๆ เป็นพื้นที่นอนรวม มีม่านกั้น และเพื่อไม่เป็นการรบกวนผู้ร่วมห้อง โปรดนอนอย่างสงบ หากโวยวายพยาบาลจะเดินมาตี
-
Nathan Cole แผนกบุกเบิกและสำรวจ
-
Chasen Konstantine แผนกบุกบิกและสำรวจ
-
Esmé Valerio แผนกบุกเบิกและสำรวจ
-
Carly Davis แผนกสวัสดิการและการเกษตร
-
Lawrence Barrette แผนกสวัสดิการและการเกษตร
-
Victoria Rose แผนกดูแลพลเรือน
-
Ro Andrea แผนกดูแลพลเรือน
-
Aise Kondo แผนกบุกเบิกและสำรวจ
-
Andy Clarkson แผนกบุกเบิกและสำรวจ
-
Carter Colton แผนกบุกเบิกและสำรวจ
-
Rahman Nassar แผนกบุกเบิกและสำรวจ
-
Shaan Yuvillen แผนกสวัสดิการและการเกษตร
ไม่สามารถเข้าเยี่ยมได้
พื้นที่สำหรับผู้ป่วยที่อยู่ในระยะเฝ้าระวังรุนแรง จำกัดพื้นที่รักษา เฝ้าระวังการแพร่เชื้อ เตรียมเข้ารับการผ่าตัด หรือการยื้อชีวิต
-
William Page แผนกบุกเบิกและสำรวจ
-
ถูกระบุว่าเป็นผู้รอดชีวิตจากการใช้วัคซีนต้นแบบ Enigma ถูกส่งตัวเข้าพักฟื้นที่ห้องทดลองพิเศษ
-
การใช้วัคซีนจากการทดลองโดยไม่ได้รับอนุญาต มีความผิดร้ายแรง
-
วิลเลี่ยม เพจ ถูกให้ยาสลบชั่วคราวตลอดการตรวจสอบร่างกาย และแบ่งเลือด
-
งดเยี่ยมไม่ว่าในกรณีใด ๆ หากต้องการสอบถามข้อมูล ติดต่อ อมันดัส เลนเนส
-
-
Gabriel Cross แผนกบุกเบิกและสำรวจ
-
ถูกระบุว่าเป็นผู้ป่วยที่เซลล์ในร่างกายไม่สามารถเข้ากับวัคซีนรักษาได้ และเป็นไวรัส Enigma
-
ร่างกายอยู่ในขั้นตอนการเสื่อมสภาพขั้นต้น ไม่รุนแรง แต่อาจเกิดอาการหายใจไม่ออก หรือตาพร่ามัวบางครั้ง
-
หลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีอุณหภูมิเปลี่ยนแปลง
-
สามารถเข้าเยี่ยมได้ไม่เกิน 30 นาที ต่อครั้ง เว้นว่าง 3 ชั่วโมง
-
-
Edelweiss Drite แผนกสาธารณสุข
-
ถูกระบุว่าเป็นผู้ป่วยที่เซลล์ในร่างกายไม่สามารถเข้ากับวัคซีนรักษาได้ และเป็นไวรัส Enigma
-
ร่างกายอยู่ในขั้นตอนการเสื่อมสภาพขั้นต้น ไม่รุนแรง แต่อาจเกิดอาการหายใจไม่ออก หรือตาพร่ามัวบางครั้ง
-
หลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีอุณหภูมิเปลี่ยนแปลง
-
สามารถเข้าเยี่ยมได้ไม่เกิน 30 นาที ต่อครั้ง เว้นว่าง 3 ชั่วโมง
-
-
Caleb Chang แผนกบุกเบิกและสำรวจ
-
ถูกระบุว่ามีอาการเลือดคลั่งในสมอง
-
อาจมีอาการปวดหัวรุนแรงเฉียบพลัน คลื่นไส้หรืออาเจียนอย่างรุนแรง
-
อยู่ในระหว่างการรอผ่าตัดระบายของเหลว โดยการเจาะรูผ่านกะโหลกศีรษะเพื่อระบายเลือดออกมา
-
สามารถเข้าเยี่ยมได้ไม่เกิน 30 นาที ต่อครั้ง เว้นว่าง 3 ชั่วโมง
-
-
Gino Perez แผนกบุกเบิกและสำรวจ
-
ถูกระบุว่าเป็นผู้ติดเชื้อ V4801 ชนิดใหม่ วัคซีนที่มีไม่สามารถรักษาหายขาดได้
-
จำเป็นต้องรับวัคซีนทุก ๆ 24 ชั่วโมง
-
อาจมีไข้สูง เหงื่อออกมาก ต้องการน้ำและอาหาร อยู่ในขั้นตอนการเฝ้าระวัง และจำเป็นต้องตรวจอย่างละเอียด
-
สามารถเข้าเยี่ยมได้ไม่เกิน 20 นาที ต่อวัน ผู้เข้าเยี่ยมจำเป็นต้องสวมหน้ากากกันเชื้อแพร่ในอากาศ
-
ระบบ 'แผลเป็น'
ตัวละครที่ประสบอุบัติเหตุ หรือได้รับการโจมตีระหว่างปฏิบัติหน้าที่ทั้งนอก และใน Safe Haven อาจได้รับบาดแผล ซึ่งมีโอกาสที่จะกลายเป็น ‘แผลเป็น’ ได้
แผลเป็น อาจเป็นได้ทั้งแผลในทางกายภาพ หรือบาดแผลในจิตใจ หรืออาการ PTSD (Post Traumatic Stress Disorder) ตัวละครที่ได้รับบาดเจ็บมีโอกาสได้รับบาดแผลซึ่งความรุนแรงของบาดแผล หรือแผลเป็นนั้นขึ้นอยู่กับความรุนแรงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตัวละครใดที่ได้รับแจ้งว่ามีโอกาสเกิด PTSD จำเป็นต้องเลือก ‘แผลเป็น’ จากรายการอาการด้านล่าง โดยเลือกจากความรุนแรงที่ตัวละครประสบ
สามารถอ่านรายละเอียดระดับของอาการป่วยได้ใน
>> ระดับของอาการป่วย <<
สำหรับMission4 ‘ทุกคน’ มีสิทธิได้รับแผลเป็น สามารถแจ้งได้ไม่เกิน 2 แผล หรือไม่แจ้งก็ได้ ไม่มีการบังคับ สามารถเลือกระดับอาการป่วย และแจ้งกับระบบได้ทางDM
บาดแผล และผลกระทบ จะคงอยู่จนกว่าคอมมูจะจบ และจะถูกเขียนลงในประวัติตัวละครในหน้าแต่ละแผนก
หมายเหตุ : นอกเหนือจากระดับอาการที่กล่าวมา ผู้เล่นสามารถเสนออาการป่วยให้ระบบจะรับพิจารณาได้ตามสะดวก
โปรดติดตามข่าวสารเกี่ยวกับทางเลือกในเร็ว ๆ นี้
Safe Haven ยินดีที่กลับมาอย่างปลอดภัย
สำหรับผู้เล่น
ตัวละครที่บาดเจ็บจะได้รับวันหยุดเพื่อพักฟื้น ส่วนตัวละครที่แข็งแรงดีสามารถเลือกที่จะอยู่ช่วยงานที่ SEA ต่อ หรือเลือกเดินทางกลับ SH เพื่อกลับไปทำงานตามแผนกได้ ผู้เล่นสามารถทำการโรลเพลย์ได้ตามปกติ โดยเนื้อหาจะถูกกำหนดให้อยู่ภายในฐาน SEA และ SH เป็นหลัก
ภายใน SEA ผู้เล่นสามารถโรลเพลย์นอนป่วย ขโมยเสบียงครัว ขุดแปลงผัก ช่วยงานจิปาถะได้ไปจนถึง ออกไปยิงผู้ติดเชื้อหน้าฐาน แต่ขอสงวนไม่ให้ออกสำรวจ หรือเข้าเขตโรงพยาบาล ไม่รับประกันความปลอดภัยใด ๆ และไม่มีการเมนชั่นระบบเพื่อแจ้งผลจากการกระทำของตัวละคร ผู้เล่นสามารถกำหนดเรื่องราวได้เอง และสำหรับตัวละครที่ถูกกักกันเชื้อรุนแรง สามารถโรลเพลย์ได้ตามปกติเช่นกัน
ภายใน SH ผู้เล่นสามารถโรลเพลย์ทำงานได้ตามปกติ โดยอยู่ในสถานการณ์ติดตามข้อมูลจาก SEA และการช่วยโยกย้ายประชากรขึ้นมาอยู่ในระดับชั้นที่สูงขึ้น ปิดการใช้งานในบางเขตพื้นที่อยู่อาศัยเพื่อประหยัดพลังงาน
ทางระบบต้องขอขอบคุณผู้เล่น และขออภัยสำหรับความผิดพลาดระหว่างการเล่นกิจกรรม เกิดความล่าช้า และความไม่พร้อมของตัวระบบเอง รวมถึงวิธีเล่นที่ไม่เอื้อต่อทุกแพลตฟอร์ม ทำให้ผู้เล่นต้องประสบกับปัญหาที่ไม่ควร และเนื่องด้วยคอมมูนิตี้สโลว์ไลฟ์นี้ ได้เข้าสู่ช่วงท้ายของเนื้อเรื่อง อาจมีบางข้อมูลที่สร้างความสับสนแก่ผู้เล่น รวมถึงช่องโหว่ทางข้อมูลมากมาย ท้ายที่สุดแล้วจะมีการสรุปคอมมูเพื่อความเข้าใจตรงกัน แม้จะมีการวางเนื้อเรื่องไว้ แต่ทุกเนื้อเรื่องจะถูกปรับเปลี่ยนตามการกระทำของทุกตัวละคร
หากมีข้อสงสัยใด ๆ สามารถสอบถามระบบได้ตลอดค่ะ
ด้วยรัก
กาแฟ และเนื้อย่างที่เอเดน